การวิ่งมาราธอน
13:31
การวิ่งมาราธอน
วิ่งมาราธอนระยะไกลเพื่อไปให้ถึงเส้นชัย
จะต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนลงวิ่งในรายการจริง ไม่ว่าจะเป็นวิ่งมาราธอนระยะทาง 42 กิโลเมตร
หรือวิ่งฮาล์ฟมาราธอนระยะทาง 21 กิโลเมตร หรือวิ่งมินิฮาล์ฟมาราธอนระยะทาง 10
กิโลเมตร
สำหรับการวิ่งมาราธอน กลายเป็นกีฬายอดนิยมอีกประเภทหนึ่ง ณ เวลานี้ ซึ่งในหลายๆ รายการมีจำนวนผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันไม่น้อยที่มีใจรักการวิ่งมาราธอน อาจเป็นเพราะผู้แข่งขันได้ทั้งความสนุกสนาน ได้ทั้งมิตรภาพจากเพื่อนใหม่ๆ และยังมีสิทธิลุ้นรางวัลอยู่ข้างหน้า หากเข้าเส้นชัยเป็นอันดับต้นๆ
ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยที่เราจะวิ่งมาราธอนระยะไกลเพื่อไปให้ถึงเส้นชัยโดยไม่มีการฝึกซ้อม เพราะการฝึกซ้อมวิ่งจะช่วยทำให้ระบบหายใจและกล้ามเนื้อแข็งแรงและอึดพอ จนเป็นความเคยชิน ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยและล้าง่ายขณะวิ่งจริง แนะนำว่าในขณะซ้อมและวิ่งจริงให้ปฏิบัติดังนี้
1. วอร์มร่างกายก่อนซ้อมวิ่งอย่างน้อย 10 นาที เพื่อเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บขณะวิ่ง และยังช่วยทำให้วิ่งได้นานขึ้นด้วย
2. ต้องซ้อมวิ่งอยู่ประจำ ทั้งนี้ระยะเวลาในการซ้อมขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายของแต่ละคน บางคนอาจต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าร่างกายจะพร้อม แนะนำในการซ้อมแต่ละวันให้ซ้อมวิ่งหนักโดยการเพิ่มระยะทางในการวิ่งไปเรื่อยๆ และสลับกับการวิ่งเบาๆ ไปจนกว่าจะสามารถวิ่งจนครบกำหนดระยะทางของการวิ่งมาราธอนในแต่ละรายกายที่จะลงแข่งขัน
3. หลังจากซ้อมวิ่งแล้ว จนร่างกายมีความแข็งแรงและอึดเพียงพอแล้ว ให้ซ้อมวิ่งเสมือนจริง เสมือนว่าเรากำลังวิ่งมาราธอนแข่งขันในสนามจริง ให้ได้ระยะทางรวมเท่ากับรายการที่เราจะลงแข่งขันได้กำหนดไว้แบบรอบเดียวจบ
4. ในระหว่างการซ้อมหากเกิดอาการบาดเจ็บ ห้ามฝืนซ้อมวิ่งต่อโดยเด็ดขาด จนกว่าอาการเจ็บบาดเจ็บจะหายสนิท จึงค่อยกลับมาซ้อมวิ่งต่อ
5. หลังจากฝึกซ้อมวิ่งต้องมีระยะเวลาในการพักเพียงพอก่อนการลงสนามวิ่งจริง เพื่อให้ร่างกายได้มีการพักฟื้นไม่ให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าจนเกินไป ยิ่งก่อนวันวิ่งมาราธอนจริงต้องนอนหลับพักพ่อนอย่างน้อย 7 ชั่วโมง เมื่อตื่นมาจะได้รู้สึกสดชื่น
6. ในช่วงของการฝึกซ้อมวิ่งมาราธอน อาหารเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และพอเพียงต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน
7. ขณะวิ่งน้ำดื่มเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะร่างกายของเราจะสูญเสียน้ำตลอดระยะเวลาของการวิ่ง ซึ่งขณะวิ่งจึงควรจิบน้ำเป็นระยะๆ เมื่อรู้สึกกระหายน้ำ อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำโดยเด็ดขาด
8. อย่าฝืนวิ่งต่อไปเมื่อรู้สึกเหนื่อย ให้หยุดพักจนกว่าอาการจะดีขึ้น
หากเรามีวินัยในการฝึกซ้อมวิ่งมาราธอนอย่างจริงจัง รับรองว่าเส้นชัยจะอยู่ไม่ไกลเกินความสามารถของเราเลย